ที่เที่ยวของเอเชีย เกาหลีเหนือประวัติ เป็นอย่างไร?
ที่เที่ยวของเอเชีย เกาหลีเหนือนั้น มีอีกชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี เป็นประเทศที่มีรอยต่อ ทางตอนเหนือของเกาหลีใต้ กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของครบสมุทรเกาหลี มีเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดอย่าง กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือนั้นมี พรมแดนที่ติดกับเกาหลีใต้ ในเขตปลอดทหารที่เส้นขนาน 38 อันเป็นเส้นแบ่งเขตแดนเกาหลีเหนือ และใต้นั้นเอง ทางตอนเหนือของเกาหลีเหนือ มีแม่น้ำตูเมนซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างจีนและเกาหลีเดหนือ
แม่น้ำตูเมนส่วนหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย ประวัติของประเทศนี้เริ่มต้นในยุคของสงครามเย็น ที่สองแนวความคิดทางการปกครอง ขัดแย้งและจับกลุ่มกันอย่างรุนแรง โดยเกาหลีเองนั้นต่างมีสองฝ่าย ให้การ สนับสนุนไม่ว่าจะเป็น
สหรัฐอเมริกา ที่สนับสนุนทางใต้ ส่วนทางเหนือนั้นเป็น สหภาพโซเวียต และจีนนั้นเอง ในช่วงเวลานั้นเองทั้งสองแนวคิดในประเทศเกาหลี เกิดการปะทะกันขึ้นหลังจาก ที่ประเทศแห่งนี้รอดพ้นจากการปกครองญี่ปุ่น เป็นเวลาหลายสิบปี นับว่าประเทศเกาหลีในตอนนั้นต่าง
บอบช้ำและอดยากอย่างมากนั้นอง ด้วยการตกลงกันในประเทศไม่ได้ จึงนำไปสู่ความขัดแย้งในสงครามเกาหลี ในปี พ.ศ. 2493 ด้วยตลอดระยะเวลาการรบนั้น เกาหลีใต้เสียเปรียบทางกำลังคน และยุทธโธปกรณ์ที่ทันสมัย ทำให้การต่อต้านเกาหลีเหนือนั้น เป็นไปได้ยากนั้นเอง
จนกระทั่งอเมริกาและกองทัพ สหประชาชาติได้เข้าร่วมสงคราม และให้การสนับสนุนเกาหลีใต้ จนสามารถกลับมาได้เปรียบในสงคราม หลังจากที่เหลือดินแดนเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ในสงครามครั้งนี้เองมีทหารไทย เข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ด้วย จากการร่วมเป็นสหประชาชาตินั้นเอง
จากการสู้รบที่ยาวนานกว่า 3 ปี ในปี พ.ศ. 2496 ได้ทำสัญญาสงบศึกชั่วคราว ภายใต้เส้นขนานที่ 38 ให้เป็นพรมแดนกั้นกัน และเป็นเขตปลอดอาวุธ โดยแยกพรมแดนของทั้งสองออกนั้นเอง หลังจากการทำสัญญาสงบศึกนั้น ทั้งสองประเทศก็อยู่ในภาวะ ที่พร้อมจะทำสงครามได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุปัจจัยความคิด ของเกาหลีเหนือที่คิดว่า เกาหลีทั้งหมดควรจะสังคมนิยมให้หมดนั้นเอง การโจมตีจึงมีให้เห็นเกิดขึ้น อยู่บ้างปะปลายจนมาถึงปัจจุบันนั้นเอง
ที่เที่ยวของเอเชีย เกาหลีเหนือมี การปกครองแบบใด?
หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และจีนแดง ที่เคลื่อนกำลังพลนับล้าน ขับไล่ทหารฝั่งสัมพันทมิตรทางตอนเหนือ ให้ถอยล่นลงไปทางใต้นั้นเอง นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสงคราม ที่ทำให้ผลในครั้งนี้เกาหลีใต้ กลับมาเสียเปรียบอีกครั้งนั้นเอง หนึ่งในการนำของเกาหลีเหนือ ผู้ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นบิดาของประเทศนี้เลยก็ว่าได้อย่าง คิม อิล ซ็อง ผู้นำพรรคแรงงานเกาหลี ในช่วงที่ญี่ปุ่นปกครองเกาหลีนั้น เขาคือผู้นำกลุ่มคนที่เข้ารบกับญี่ปุ่น จนได้รับการสนุบสนุนจากทางฝั่งสังคมนิยม
รวมถึงแนวคิดสังคมนิยด้วยเช่นกัน ภายหลังจบสงครามเกาหลี เขานั้นได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศ และได้เริ่มดำเนินการนโยบาย ป้องกันประเทศเร่งสร้างอาวุธ และกองทัพให้ยิ่งใหญ่ แต่ภายหลังที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย เกาหลีเหนือเองได้ขาดที่พึ่งใหญ่ไปหนึ่ง
จึงทำให้ประเทศต้องเร่งสร้างรัฐธรรมนูธ และอำนาจในการปกกันประเทศนั้นเอง จากรุ่นพ่อสู่ลูกชาย การสืบทอดอำนาจทางสายเลือด ในการปกครองประเทศ คิม จ็อง อิล ลูกชายของ คิม อิล ช็อง ได้ขึ้นสืบทอดอำนาจต่อจากผู้เป็นพ่อ หลังจากที่ได้ถึงแก่อนิจกรรม
ทำให้ในยุคของคิม อิล ช็อง ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ สานต่อจากงานของพ่อเขานั้นเอง คิม จ็อง อิล นั้นนับว่าเป็นบุคคลที่ทั่วโลก ต่างกังวลและให้ความสำคัญ กับท่าทีของเขาในการปกครอง โดยการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ และขีปนาวุท ระยะไกล
นโยบายทางทหารนั้นเข้มงวด และรากฐานทางอำนาจที่เข้มแข็ง ยุคนี้เองนับว่าทำเอาทั่วโลก วิตกกังวลกับสงครามนิวเคลียร์ที่จะเกิดขึ้น แต่ในเวลาต่อมาคิม จ็อง อิล ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรม จึงได้ลูกชายคนที่ 3 อย่าง คิม จ็อง อึน ขึ้นมาเป็นผู้นำต่อจากพ่อของเขา
ถึงแม้เขาจะอายุไม่เยอะเท่าไร แต่เขาก็ยังเจอบททดสอบ ความท้าทายอำนาจของเขา เป็นข้อเปรียบเทียบกับพ่อ และปู่ของเขานั้นเอง นับว่าเกาหลีเหนือ ปกครองกันมา 3 ชั่วอายุคนด้วยระบบเผด็จการ ลักธิสตาลินแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีลัทฑิบูชาบุคคลที่คอยค้ำจุน
ให้ประเทศนี้เชื่อในตัวผู้นำเพียงอย่างเดียว จึงทำให้แนวคิดของคนในประเทศ ไปในทิศทางเดียวกันนั้นเอง หลังจากก่อตั้งประเทศทั้งเหนือและใต้ เราจึงได้เห็นถึงความแตกต่างของสองประเทศ ที่เดินกันคนละเส้นทาง ถึงแม้จะมีสายเลือดและชนเชื้อเดียวกันนั้นเอง
เกาหลีเหนือสถานที่ท่องเที่ยวเป็นอย่างไร?
เกาหลีเหนือนั้นถือได้ว่าเป็นประเทศ ที่มีการท่องเที่ยวภายในประเทศด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะดูน่ากลัวจากภาพลักษณ์ภายนอก ที่เป็นประเทศเผด็จการทหาร ด้วยกฎอันเข้มงวดของการท่องเที่ยว ทำให้ประเทศแห่งนี้ไม่ได้เปิด ให้ท่องเที่ยวได้อย่างเสรีเหมือนกับประเทศอื่นๆ โดยการที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือได้ ต้องเดินทางผ่านสายการบินจีนเท่านั้น นอกจากนี้ไกด์ของที่นี้ยังสามารถ พูดภาษาไทยได้อีกด้วยเช่นกัน จึงทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้ ทำให้เราเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้นนั้นเอง
สถานที่แรกคือ หลุมฝังพระศพพระเจ้าดงเมียงซอง แห่งโกคูรยอ ( Tomb of King Tongmyong ) เป็นหลุมฝังพระศพที่มีชื่อเสียงของเกาหลีเหนือ หากใครที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์เกาหลี จะทราบกันดีว่าในช่วงที่ราชวงค์ โกคูรยอ ปกครองเป้นอย่างไรในแต่ละยุคสมัย
นอกจากนี้ยังพบหลุมศพมากกว่า 60 หลุมด้วยกัน รวมพระญาติและคนในราชวงค์นั้นเอง ในอดีตนั้นอาณาจักรเกาหลี มีเมืองหลวงที่เปียงยาง อันเป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีเหนือในปัจจุบัน จึงทำให้ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ อันเป็นรากฐานของวัฒธรรมนั้นเอง
ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรม และปติมากรรมนั้น ล้วนเป็นศิลปะเกาหลีแบบดั่งเดิม ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์เกาหลี นับว่าห้ามพลาด สถานที่ต่อไปคือ จตุรัสคิม อิล ซ็อง ( Kim IL Sung Square ) เป็นจตุรัสขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้กว่า 100,000 คน และเป็นจตุรัสที่เป็นเอกลักษณ์
ของประเทศเกาหลีเหนือเลยทีเดียว ไม่ว่างานเหตุการณ์สำคัญต่างๆ หรืองานวันชาติของเกาหลีเหนือ จะมีการเดินขบวนกองทัพยังที่แห่งนี้นั้นเอง ความยิ่งใหญ่ของที่แห่งนี้ เป็นการประกาศถึงความยิ่งใหญ่ ของประเทศแห่งนี้ที่สามารถทำให้ โลกตะวันตกต่างหวาดกลัวพวกเขานั้นเอง
จตุรัสแห่งนี้ได้มีต้นแบบมาจากรัสเซีย ที่จตุรัสแดงนั้นเอง นับว่าประเทศที่เป็นสังคมนิยม ล้วนจะมีจตุรัสขนาดใหญ่ของตัวเอง เพื่อเป็นการเดินสวนสนามประกาศแสนยานุภาพนั้นเอง เราไปกันต่อที่ เทือกเขาฉางไป๋ซาน ( Changbai Moutains ) เทือกเขาแห่งนี้ตั้งอยู่
ระหว่างพรมแดนจีนและเกาหลีเหนือ ที่ทอดยาวไปถึงพรมแดนรัสเซียนั้นเอง แต่เป็นที่น่าเสียดายในทางฝั่งเกาหลีเหนือ ไม่ได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยว ในที่แห่งนี้ให้ดีเท่ากับฝั่งจีน ที่มีการพัฒนาเทือกเขาแห่งนี้ ให้กลายเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวอีกแห่งของจีนนั้นเอง
ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ของเทือกเขาแห่งนี้ที่โอบล้อม แม่น้ำขนาดใหญ่ที่เป็นเส้นกั้นพรมแดนนั้นเอง สถานที่สุดท้ายคือ วังสุริยะคึมซูซัน ( Kumsusan Palace of the Sun ) เป็นสถานที่พำนักของท่าผู้นำเกาหลีเหนือ ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ของกรุงเปียงยาง วังแห่งนี้เป็นที่พำนักของท่านผู้นำ รุ่นก่อนๆที่อยู่อาศัยจนกระทั่งเสียชีวิต อย่างในเหตุการณ์การเสียชีวิต ของประธานาธิบดี คิม อิล ช็อง ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็น สุสานขนาดใหญ่ที่อุทิศให้กับ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของประเทศแห่งนี้นั้นเอง
ข้อห้ามในการถ่ายรูปในเมือง จะต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ ห้ามถ่ายรูปผู้นำส่วนใดส่วนหนึ่งขาดไม่ได้ จะมีการเช็คกล้องเราอยู่เสมอนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือ ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาหลีเหนือ ถึงแม้จะเป็นประเทศที่ปิด แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ หากเกาหลีเหนือพัฒนาทางการท่องเที่ยว จะต้องมีความสวยงามไม่แพ้ใครเลยนั้นเอง
ปัจจุบันเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร?
เกาหลีเหนือยังคงเป็นประเทศ ที่มุ่งเน้นความมั่นคงทางด้าน การทหารอย่างต่อเนื่อง จากความร่วมมือจากจีนและรัสเซีย มาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าคนเกาหลีเหนือ มีแนวคิดที่ปกป้องอธิปไตยของตน ด้วยวิถีแห่งการทหารเพื่อปกป้อง ผลประโยชน์รวมถึงวัฒนธรรมของเกาหลีเหนือด้วยเช่นกัน
ที่นี้มีโทษเด็ดขาดกับคนที่คิดจะหนี หรือนำเข้าวัฒนธรรมจากที่อื่น สื่อจากทางฝั่งเกาหลีใต้เอง ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะปกป้องกรอบความคิด และวัฒนธรรมของคนในชาติ จึงมีผู้คนจำนวนมากที่คิดจะหนี ไปยังเกาหลีใต้ซึ่งเปิดรับ ผู้ลี้ภัยจากเกาหลีเหนือทุกคน
และให้ทุนสนับสนุนเพื่อต้อนรับคน ที่มีเชื้อชาติเดียวกันนั้นเอง ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่เกาหลีเหนือ ทำให้มีทรัพยากรแร่ต่างๆมากมาย จึงทำให้เกาหลีเหนือนั้น มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรดีกว่าเกาหลีใต้ และยังได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มประเทศโลกระบอบสังคมนิยมนั้นเอง
สรุปการท่องเที่ยวเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร?
ถึงแม้กฎระเบียบข้อห้าม ในการท่องเที่ยวของเกาหลีเหนือจะเยอะก็ตาม เพราะด้วยความมั่นคงภายในประเทศ แต่ประเทศแห่งนี้นับว่ามีธรรมชาติที่สวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับรากเง้าของวัฒนธรรมเกาหลี แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย เกาหลีเหนือเองไม่ได้พัฒนาทางการท่องเที่ยวเท่าไรนัก อีกทั้งการท่องเที่ยวยังต้องอยู่ในกรอบ แผนการเดินทางที่ทางการ เป็นผู้มอบให้หรือว่าเราเป็นคนเลือกโปรแกรมนั้นเอง ภายในเมืองเปียงยางเราจะได้เห็น
วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนที่นี้ ที่มีแนวคิดบูชาตัวบุคคล ปลูกฝังให้พวกเขานั้นมีความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ และตัวพวกเขาก็จะทำประโยชน์ ให้กับประเทศนี้เพื่อผู้นำนั้นเอง หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ที่แปลกใหม่และท้าทายแล้วละก็ ห้ามพลาดประเทศเกาหลีเหนือ
ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยได้อย่างอบอุ่น และฝากความประทับใจไว้ให้กับคุณได้นั้นเอง จึงทำให้มองว่า เกาหลีเหนือ เป็นประเทศทีมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทางด้านแนวคิดและการปกครอง เพื่อให้ผู้คนในประเทศนั้นเชื่อมั่น และมองผู้นำของเขา ราวกับเป็นเทพองค์หนึ่ง ที่ช่วยพวกให้ร่มเย็นเป็นสุข สร้างเกาหลีเหนือให้เข้มแข็งนั้นเอง นับว่าเป็นอีกเป็นประเทศหนึ่ง ที่ยังเป็นมรดกจากยุคสงครามเย็น อันเป็นสไตล์เฉพาะของเกาหลีเหนือนั้นเอง